9 สถานที่เที่ยว ถ่ายรูปปุ๊บ รู้ปั๊บ อยู่แอฟริกาใต้ เมื่อเราพูดถึงแอฟริกาใต้ ผู้คนที่ไม่เคยเดินทางไปที่นั่นอาจส่ายหัวปฏิเสธเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่…อย่าด่วนสรุปเช่นนั้น เพราะเมื่อคุณไปเยือนแอฟริกาใต้คุณอาจอุทานด้วยเสียงหวานว่า “โอ้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดหวังไว้” การได้เห็นสัตว์ในแอฟริกาใต้ไม่เหมือนกับการเดินผ่านสวนสัตว์เหมือนเมื่อก่อน คอกสัตว์ที่นี่เป็นป่าอันกว้างใหญ่ ไม่มีข้อจำกัด ดังนั้นการได้ไปชมชีวิตธรรมชาติของสัตว์ต่างๆในบริเวณนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดี แต่แอฟริกาใต้มีมากกว่าแค่ป่าไม้ สำรวจสถานที่ท่องเที่ยว 9 แห่ง ถ่ายรูป และสัมผัสความรู้สึกว่าคุณอยู่ที่ไหนในแอฟริกาใต้
1. อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park)
อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ป่าสงวนทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ หากมีโอกาสมาเยือนประเทศแอฟริกาใต้และมีเวลามากพอ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เป็นสถานที่ไฮไลต์ที่ต้องห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะที่นี่มีกิจกรรมสุดสนุกแถมยังต้องอาศัยดวง นั่นก็คือ ซาฟารี (Safari) ‘การเดินทาง’ หรือการผจญภัยรูปแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์นานาชนิด เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต การ ตะลุยซาฟารีตามล่าหา Big 5 พี่ใหญ่ทั้ง 5 ของพื้นป่า อันประกอบไปด้วย สิงโต, ช้าง, ควายป่า, แรด และเสือดาว
หากใครมาแล้วเจอ 5 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแอฟริกาใต้ครบตั้งแต่ครั้งแรกถือว่าโชคดีมากประหนึ่งได้เจอคุณชายทั้ง 5 แห่งวังจุฑาเทพ เหล่าพระเอกนี้ฮอตถึงขนาดถูกเลือกให้เป็นตีพิมพ์เป็นลายบนธนบัตรรุ่นเก่าของประเทศแอฟริกาใต้เลยทีเดียว ปัจจุบันธนบัตรรุ่นใหม่เป็นรูปนายเนลสัน แมนเดลารัฐบุรุษคนสำคัญของประเทศ
กิจกรรม Game Drive ที่ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เป็นการนั่งรถกระบะ 4X4 เปิดโล่ง แต่ละคันนั่งได้ประมาณ 9 คน Ranger หรือผู้เชี่ยวชาญที่เป็นทั้งคนขับรถและคนนำทาง ขับรถไปตามเส้นทางเพื่อออกไปตามหาสัตว์ป่าบนผืนป่ากว้างทุ่งหญ้าสะวันนา ที่มีทั้งต้นไม้ใหญ่ พุ่มไม้และหญ้าสูงขึ้นกระจายอยู่ทั่ว ที่นี่มีทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากจนเป็นแหล่งรวมตัวของสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิด
ด้วยความอุดมสมบูรณ์นี้ ทำให้อุทยานแห่งชาติครูเกอร์เป็นอุทยานแห่งแรกที่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า รวมถึงองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย โดยชื่อครูเกอร์นั้นตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Paul Kruger ประธานาธิบดีคนที่ 5 ของแอฟริกาใต้
2. อุทยานแห่งชาติพีลันเนสเบิร์ก (Pilanesberg National Park)
เขตวน อุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลันเนสเบิร์ก อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ พื้นที่กว่า500 ตารางกิโลเมตร เป็นอีกสถานที่ยอดนิยมของกิจกรรม Game Drive (ภูมิทัศน์เล็กและต่างกับอุทยานแห่งชาติครูเกอร์) รถที่จะพาไปชมสัตว์ของที่นี่เป็นแบบด้านข้างเปิดโล่ง จุคนได้ประมาณ 20 คน แต่ละคันจะมี Ranger ผู้เชี่ยวชาญนำทางเหมือนเดิม
พีลันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ south africa ถึงแม้ว่าในการ Game Drive แต่ละครั้งจะตามล่าหาพระเอกทั้ง 5 ไม่ครบ แต่รับรองว่าเหล่ายีราฟ ม้าลาย วิลเดอร์บีสต์ นกนานาชนิด และสัตว์ป่าอีกกว่า 220 ชนิด ก็จะพากันมาปลอบใจให้คุณเพลิดเพลินและไม่รู้สึกเสียใจที่ได้มาเลย
3. โรงแรมเดอะพาเลซ ซันซิตี้ (The Palace of The Lost City)
โรงแรมเดอะพาเลซ (The Palace) หนึ่งในโรงแรมสุดหรูภายในซันซิตี้ (Sun City) เมืองลับแลแห่งหุบเขาแสงตะวัน เมืองที่ถูกเนรมิตขึ้นจากความคิดของซอล เคิร์ซเนอร์ (Sol Keznner) อภิมหาเศรษฐีที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 28,000 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้างนาน 18 ปี เป็นความพยายามที่ต้องการทำให้ผืนดินอันว่างเปล่าแห้งแล้งใน Bophuthatswana แคว้นกลางแอฟริกาใต้ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการพักผ่อน เป็นเมืองแห่งความสำราญและความบันเทิงทุกรูปแบบที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์ เดอะพาเลซสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1992 เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน และตกแต่งภายในในสไตล์แอฟริกัน เดอะพาเลซเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำชายหาดคลื่นเทียม (Valley of Wave) สนามกอล์ฟ โรงละคร คาสิโน 24 ชั่วโมง หรือแม้กระทั่งการขึ้นบอลลูนก็สามารถขึ้นได้ที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นเมืองในฝันที่ไม่เคยหลับใหลเลยทีเดียว
4. ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain National Park)
ภูเขาโต๊ะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติ (New 7 Wonders of Nature) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเคปทาวน์มีความสูงระดับ 3,563 ฟุต ลักษณะยอดเขาตัดขวางเรียบ จึงถูกเรียกว่า ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) บนยอดเขามีพรรณพืชหลากชนิด และหลายชนิดเป็นพืชเฉพาะถิ่นที่ไม่มีที่ใดในโลก รวมถึงมีเจ้าถิ่นตัวน้อยน่ารักหน้าตาน่าเอ็นดูคือ เจ้าแดสซี่หรือกระต่ายหิน (Dassie / Rock Rabbit) ที่มีลักษณะผสมกันระหว่างกระรอกกับกระต่าย นิสัยเป็นมิตรกับผู้คน นักท่องเที่ยวสามารถทักทายทำความรู้จักได้ จากจุดชมวิวบนยอดเขาบรรยากาศตรงหน้า คือ วิวพาโนรามากว้างไกลจนมองเห็นเมืองเคปทาวน์ เมืองตากอากาศที่ติดอันดับสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้โดยรอบ
5. แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)
แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) จุดเช็คอินขึ้นชื่อของการเดินทางท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ชื่อที่คุ้นเคยจากแบบเรียนวิชาสังคมสมัยวัยรุ่น มีลักษณะเป็นแหลมที่ยื่นออกไปทางด้านมหาสมุทรแอตแลนติก และเป็นแหลมที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นจุดปลายสุดของทวีปแอฟริกา แต่จริงๆ แล้วจุดแบ่งอย่างเป็นทางการระหว่างของมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก คือ แหลมอะกะลัส (Cape Agulhas) ซึ่งอยู่ห่างจากแหลมกู๊ดโฮปไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 150 กิโลเมตรต่างหาก
เคปพอยต์ (Cape Point) จุดชมวิวที่สวยที่สุดของแหลมกู๊ดโฮป เป็นจุดที่มีอยู่สูงขึ้นไปและมีประภาคารขนาดใหญ่ให้ขึ้นไปชมวิว เพื่อสัมผัสทัศนียภาพอันสวยงามแบบไกลสุดลูกหูลูกตา จากจุดนี้สามารถเห็นจุดปะทะระหว่างกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นกันได้ชัดเจนบนผิวน้ำ
เมืองพริทอเรีย เมืองแห่งดอกไม้ดอกสีม่วงชมพูไล่ไปจนถึงม่วงเข้ม เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิหรือช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ทั่วทั้งเมืองพริทอเรียจะเหมือนถูกย้อมสีด้วย ต้นแจคกาเรนด้า (Jacaranda) ที่นัดกันออกดอกผลิบานสะกดสายตาผู้คนในเมือง รวมถึงนักท่องเที่ยวให้หยุดนิ่งกับความสวยงามนี้ เรียกได้ว่า แจคกาเรนด้าเสกให้พริทอเรียเป็นเมืองที่โรแมนติกไปชั่วขณะหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับท่านที่ชื่นชอบความสวยงามของสีสันดอกไม้เป็นพิเศษตามไปเก็บภาพความประทับใจกับดอกไม้ชนิดอื่นกับ เรื่องดอก ๆ บอกฟรีเบิร์ด กับ 10 ดอกไม้สะพรั่งบานในต่างแดน ได้อีกนะ