เที่ยวเคปทาวน์, แอฟริกาใต้: 9 ที่เที่ยวสุดว้าวที่ใครๆ ก็ไม่พลาด เมื่อเดินทางไปแอฟริกา เมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด ด้วยสภาพอากาศที่ดีตลอดทั้งปี เชิญมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของเมืองเคปทาวน์ มีกิจกรรมมากมายที่คุณไม่ควรพลาด พบกับนกเพนกวินแสนน่ารักที่มาเยือนแหลมกู๊ดโฮปอันโด่งดังเพื่อเดินป่า หาด Nelson’s Boulders และเกาะ Robben อันเก่าแก่ นายแมนเดลาถูกจำคุกเป็นเวลา 18 ปี
1. สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช (Kirstenbosch National Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอชโดดเด่นทั้งในเรื่องการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ ที่นี่คือหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติจากสิบแห่งที่เน้นอนุรักษ์ดูแลสายพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองต่างๆ สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1913 เพื่อเพาะปลูกและอนุรักษ์พืชพื้นเมืองในแอฟริกาใต้ และเต็มไปด้วยสายพันธุ์พืชพื้นเมืองในคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า (Cape Peninsula) มากกว่า 2,500 สายพันธุ์เลยทีเดียว
สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียร์ชเตนบอช คือสถานที่ที่เหมาะสุดๆ ที่จะไปเที่ยวกับครอบครัวหรือจะไปเที่ยวคนเดียวก็ดีงามเหมือนกัน สวนจัดแสดงต่างๆ เช่น Fragrance Garden และ Braille Trail ก็มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำแถมได้ความรู้ไปในตัว นอกจากนี้ยังมีคอนเสิร์ตและมีการฉายหนังตอนเย็นที่โรงภาพยนตร์ The Galileo Open Air Cinema ใครอยากชมวิวมุมสูง ขอแนะนำให้ไปเดินข้ามสะพานแขวนที่ Boomslang Canopy Trail อย่าลืมพาเด็กๆ ไปดูรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริงใกล้ๆ กับ Cycad Amphitheatre ด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่เที่ยวห้ามพลาดอื่นๆ อีก เช่น Fynbos Walk, และสวนอนุรักษ์ Conservatory and the Kirstenbosch Garden of Extinction
2. อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น (Table Mountain National Park)
อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น ว่ากันว่าใครที่ไป เคปทาวน์ แล้วไม่ได้ไปชมวิวจาก ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ใน อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น แล้วล่ะก็ ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองนี้อย่างเป็นทางการ สวนสวรรค์แห่งนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์สัตว์ป่าอันหลากหลาย และยังมองเห็นวิวอลังการของเมือง เคปทาวน์ และมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย
ภูเขาที่มียอดอันราบเรียบแลดูเหมือนโต๊ะแห่งนี้มีความยาวเกือบสามกิโลเมตร ทางเดินเขาอันคดเคี้ยวนำไปสู่ยอดเขาอย่างเช่น Devils peak, Maclear’s Beacon และ Lion’s Head บนเนินเขา Signal Hill บรรดานักเดินเขามักจะเดินไปที่หุบเขา Valley of the Red Gods และช่องเขา Frustration Gorge ก่อนจะข้ามสะพานไปสู่ช่องเขา Skeleton Gorge นอกจากนี้ยังมีถ้ำ Woodstock Cave ที่ควรค่าแก่การสำรวจ และใกล้ๆ ถ้ำก็มีน้ำตกสองแห่งที่เหมาะแก่การไปนั่งพักชิลๆ ด้วย
3. หาดโบลเดอร์ส (Boulders Beach)
หาดโบลเดอร์ส เป็นสถานที่เที่ยวที่แทบไม่เหมือนที่ไหนบนโลก เพราะชายหาดแห่งนี้เป็นทั้งโซนอนุรักษ์เจ้าเพนกวินและชายหาดสำหรับว่ายน้ำเล่น นี่อาจจะเป็นที่เดียวบนโลกด้วยซ้ำที่นักท่องเที่ยวจะสามารถใกล้ชิดกับเพนกวินแอฟริกันได้ขนาดนี้ ชายหาดบริเวณอ่าว False Bay ถูกรายล้อมด้วยโขดหินน้อยใหญ่ กั้นเป็นชายหาดส่วนตัวพร้อมๆ กับเป็นอ่าวอันปลอดภัยสำหรับเจ้าเพนกวินทั้งหลาย แม้ว่าบริเวณว่ายน้ำจะแยกออกจากบริเวณที่เพนกวินอาศัยอยู่ แต่เจ้าสัตว์น่ารักน่าเอ็นดูพวกนี้จะไปไหนก็ได้ตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นการได้ว่ายน้ำกับเพนกวินจึงถือเป็นเรื่องปกติไปเลยในบริเวณ หาดโบลเดอร์ส
4. เกาะร็อบเบน (Robben Island)
เกาะร็อบเบน หนึ่งในกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยือน เคปทาวน์ ก็คือการไปเที่ยวที่ เกาะร็อบเบน เกาะพื้นที่ราบแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นเรือนจำเพื่อคุมขังผู้นำทางการเมืองและนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1660 จนถึงปีค.ศ. 1996 เกาะแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่กักกันคนเป็นโรคเรื้อนและสถานที่กักกันสัตว์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ด้วย
หนึ่งในนักโทษการเมืองที่มีชื่อเสียงที่เคยถูกจองจำบน เกาะร็อบเบน ก็คือเนลสัน แมนเดลา เขาถูกคุมขังอยู่บนเกาะแห่งนี้นานถึง 18 ปีก่อนที่ปัญหาการเหยียดผิวจะเบาบางลง นักโทษการเมืองอีกสองคนที่เคยถูกคุมขังอยู่ที่นี่คือ Kgalema Motlanthe และ Jacob Zuma ซึ่งกลายมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศแอฟริกาใต้เช่นกัน เกาะร็อบเบน ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้และเป็นมรดกแห่งชาติของแอฟริกาใต้ด้วย
5. แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)
แหลมกู๊ดโฮป คือสวรรค์ของนักเดินเขา เพราะที่นี่มีวิวและมีเส้นทางเดินสำรวจอันแสนจะดีงาม แหลมนี้ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่เพียงแหลมนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สวยสุดๆ แต่ยังเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสำหรับสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ของทวีปแอฟริกาด้วย ใครจะรู้ว่าเดินๆ อยู่อาจจะได้เจอม้าลายระหว่างทางก็ได้ นอกจากนี้ก็จะได้เห็นส่วนต่างๆ ของแหลมด้วย ไม่ว่าจะเป็น ประภาคาร New Cape Point Lighthouse และ ประภาคาร Cape of Good Hope Old Lighthouse ส่วนใครที่เป็นสายเทร็คจริงจังก็สามารถเลือกทัวร์แบบค้างคืนเพื่อไปสำรวจให้ครบทุกส่วนของ แหลมเคปพ้อยต์ (Cape Point), แหลมกู๊ดโฮป และ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น ได้เช่นกัน
[เส้นทางเดินแบบง่ายที่แหลมเคปพอยต์และแหลมกู๊ดโฮป]
- Lighthouse Keeper’s Trail – เส้นทางที่จะไปถึง ประภาคาร Cape of Good Hope Old Lighthouse และ ประภาคาร Cape Point
- Cape of Good Hope Trail – เส้นทางนี้จะผ่านป้าย แหลมกู๊ดโฮป ผ่าน หาดดิอาซ (Diaz Beach) และไปยังจุดใต้สุดของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า
- Antoniesgat Trail – ผ่านเส้นทางที่จะไปชายหาด Buffels Bay Beach ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงว่ายน้ำ สำรวจถ้ำ และเอ็นจอยบาร์บีคิวได้
- Shipwreck Trail – เส้นทางเดินสุดพิเศษ (และเป็นที่นิยมที่สุดเส้นทางหนึ่ง) ซึ่งอธิบายถึงความสำคัญของ แหลมเคปพ้อยต์ ในด้านการเดินเรือ
[เส้นทางเดินแบบค้างคืนที่แหลมเคปพ้อยต์และแหลมกู๊ดโฮป]
Buffelsfontein Visitor Centre ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเข้าของแหลม จัดบริการทัวร์คาบสมุทรแบบค้างคืน ผู้ที่สนใจจะต้องจองทัวร์ล่วงหน้า จัดการหาที่นอนเอง และแข็งแรงพอที่จะเดินจนจบเส้นทาง
- เส้นทางเดินแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope Trail) – ทัวร์เดินสองวันหนึ่งคืน เริ่มต้นที่ แหลมเคปพ้อยต์ เดินเป็นเส้นทางวงกลมระยะทาง 33.8 กิโลเมตรรอบเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมีกระท่อมเรียบง่ายให้พัก และสามารถทำอาหารได้
- The Hoerikwaggo Trail – ทัวร์เทร็คกิ้งห้าวันสี่คืน โดยเริ่มต้นที่ปลายใต้สุดของคาบสมุทรเคปเพนนินซูล่า และเดินครอบคลุมระยะทางทั้งหมดของ อุทยานแห่งชาติเทเบิ้ลเมาท์เท่น มีเต้นท์ให้พักระหว่างทาง มีอุปกรณ์และฟืนทำอาหารจัดให้ โดยการเดินจะจบลงที่ Platteklip Wash House ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก ตัวเมืองเคปทาวน์
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Zeitz Museum of Contemporary Art Africa
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Zeitz Museum of Contemporary Art Africa คือหนึ่งในสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ของ เคปทาวน์ และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแอฟริกันร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย แค่ตัวตึกพิพิธภัณฑ์ก็น่าตื่นตาแล้ว เพราะครั้งหนึ่งตึกนี้เคยเป็นไซโลเก็บเมล็ดพืช ซึ่งเป็นหัวใจหลักทางด้านอุตสาหกรรมของเมืองริมน้ำแห่งนี้ ด้านในพิพิธภัณฑ์มีศิลปะจัดแสดงในแกลเลอรี่มากกว่า 80 ห้อง ทั้งหมดสร้างมาจากกระบอกคอนกรีตซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บเมล็ดพืชจำนวนมาก
พิพิธภัณฑ์ศิลปะZeitz Museum of Contemporary Art Africa เปิดให้บริการตอนปลายปีค.ศ. 2017 และตอนนี้ก็ดึงดูดนึกท่องเที่ยวได้มากกว่า 24 ล้านคนในแต่ละปี พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศูนย์การค้า V&A Waterfront, ชิงช้าสวรรค์ The Cape Wheel, ตลาด Cape Town Fish Market, หอนาฬิกา Clock Tower Waterfront และ พิพิธภัณฑ์ The Nelson Mandela Gateway to Robben Island
7. ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade
ทางเดินริมทะเล Sea Point Promenade หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “The Prom” เป็นมากกว่าทางเดินริมทะเลทั่วๆ ไป ทางเดินนี้ทอดยาวตั้งแต่ Mouille Point ไปจนถึง Sea Point Promenade ด้านหนึ่งติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนอีกด้านติดภูเขา Signal Hill กลายเป็นเส้นทางเดินวิวงามๆ ที่มักจะมีคนมาปั่นจักรยาน มาเดิน และมาวิ่งอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีสถานที่มากมายให้แวะระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก The Blue Train Park, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น รวมถึง ประภาคารกรีนพอยต์ (Green Point Lighthouse) ด้วย ส่วนชายหาด Milton และสระว่ายน้ำ Sea Point Pavilion Swimming Pool ก็เป็นจุดแวะเที่ยวยอดนิยมเช่นเดียวกัน
8. ตลาด The Neighbourgoods Market
ใครสายเดินตลาดที่หลงรักของน่ารักๆ และสรรพสิ่งโลคอลจะต้องหลงรักตลาด The Neighbourgoods Market แห่งนี้แน่นอน ตลาดนัดวันเสาร์แห่งนี้เริ่มเปิดบริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับย่าน Woodstock แห่งนี้ และบรรดาพ่อค้าแม่ขายก็จะขายสินค้าท้องถิ่นมากมาย สร้างความคึกคักให้ชุมชน ตลาดแห่งนี้ประสบความสำเร็จมากมายจนเริ่มมีตลาดคล้ายๆ กันเกิดขึ้นทั่วเมืองเคปทาวน์ ปัจจุบันมีสินค้าขายมากมายตั้งแต่ของสด ขนมของหวาน เสื้อผ้าแฮนด์เมด ไปจนถึงเครื่องประดับ
9. พิพิธภัณฑ์ District Six Museum
อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจและควรค่าแก่การแวะอีกหนึ่งแห่งของ เคปทาวน์ ก็คือพิพิธภัณฑ์ District Six Museum ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงผู้คน 60,000 ชีวิตในเขตนี้ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านของพวกเขาในช่วงการเหยียดผิวในประเทศแอฟริกาใต้ในช่วงทศวรรษ 1970 การเหยียดผิวนี้กินเวลายาวนานตั้งแต่ค.ศ. 1948 จนถึงช่วงต้นทศวรรษ 1990
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บรวบรวมมรดกและวัฒนธรรมของผู้คนในเขตนี้เอาไว้ในช่วงเวลานั้น โดยบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาผ่านภาพถ่ายและสิ่งของต่างๆ ที่เก็บมาจากพื้นที่ การจัดแสดงป้ายถนน ของตกแต่งบ้าน และสิ่งของที่ใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ช่วยอธิบายถึงความยากลำบากที่ชาวเมืองต้องยอมทน ผู้คนที่เคยอาศัยในเขตนี้หลายคนได้เข้ามาช่วยนำทัวร์ด้วย พร้อมบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวถึงสภาพความเป็นอยู่ใน เคปทาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต District Six ในช่วงการเหยียดผิว
[สถานที่เที่ยวใจกลางเมืองเคปทาวน์]
- ตึกรัฐสภา (Parliament Towers), บ้านพักทาสไอซิโก้ (Iziko Slave Lodge) และ ศาลากลางเมืองเคปทาวน์ (Cape Town City Hall) – ตึกสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมือง มีสถาปัตยกรรมงดงาม
- ปราสาทแห่งกู๊ดโฮป (Castle of Good Hope) – ป้อมปราการสมัยศตววรษที่ 17 ที่เคยถูกใช้เป็นฐานทัพของทหารแอฟริกาใต้
- จัตุรัสกรีนมาร์เก็ต (Greenmarket Square) และ ถนนลอง (Long Street) – ตลาดนัดและย่านช้อปปิ้ง
- สวนสาธารณะคอมปานี (The Company’s Garden) – สวนสาธารณะสำคัญที่อยู่ใกล้กับ หอศิลป์แห่งชาติแอฟริกาใต้ (South African National Gallery), พิพิธภัณฑ์ Cape Town Holocaust and Genocide Centre, พิพิธภัณฑ์ Iziko South African Museum และ โรงละคร The Labia Theatre
- ศูนย์ศิลปะ Artscape Theatre Centre – สถานที่จัดแสดงละครเพลง โอเปร่า และเทศกาลห้ามพลาดต่างๆ